รู้จัก “ตราสารหนี้” กันหน่อย
ตราสารหนี้ (Bond) ในปัจจุบันแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ หากเป็นของรัฐบาลจะเรียกกันว่าพันธบัตรรัฐบาลซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่มีระยะเวลาปานกลาง ไปจนถึงระยะยาว ตั้งแต่ 1 ปีไปจนถึง 50 ปี ออกโดยกระทรวงการคลัง โดยส่วนใหญ่ที่ใช้กันคือพันธบัตรเพื่อการกู้ยืม (ออกมาเพื่อแก้ไขภาวะขาดดุลงบประมาณ) และพันธบัตรออมทรัพย์(เพื่อการออมของประชาชน)ในส่วนนี้จะมีความปลอดภัยสูง และสามารถนำไปใช้ในการค้ำประกันได้
พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หรือตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐวิสาหกิจ เช่น การไฟฟ้า จะเป็นตราสารหนี้ระยะกลาง และระยะยาวที่ และได้รับการค้ำประกันโดยกระทรวงการคลังเพราะจะทำให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ผู้ที่ลงทุนในส่วนนี้จะได้รับผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลซึ่งเป็นผลมาจากสภาพคล่องที่แตกต่างกัน แต่ก็จะมีความเสี่ยงอยู่บ้างอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย
ตราสารหนี้ภาคเอกชน หรือ “หุ้นกู้” ในส่วนนี้กิจการออกมาเพื่อเป็นการระดมทุน ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมากกว่าใน 2 รูปแบบแรก เพราะเอกชนต้องดำเนินกิจการให้มีกำไรมากพอที่จะให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยได้ด้วยปัจจัยแห่งความเสี่ยงดังกล่าวและอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ภาคเอกชนจึงต้องกำหนดอัตราผลตอบแทนให้มากกว่าของภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจเพื่อให้จูงใจต่อนักลงทุน
ในกรณีที่เราสนใจลงทุนในกองทุนตราสารหนี้เราควรศึกษาและเลือกกองทุนที่จะซื้อให้มีอายุมากสักหน่อย 5 ปีขึ้นไปจะดีมาก เพราะผลตอบแทนที่จะได้รับจะคุ้มค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่มี ผลตอบแทนที่ได้จะมีโอกาสมากกว่า 3% ต่อปี กองทุนตราสารหนี้มีอยู่มากมายก็จริงทั้งในและต่างประเทศ แต่ถ้าเราต้องการศึกษาความเป็นไปของกองทุนให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจให้ง่ายและสะดวกขึ้น ก็ให้เลือกกองทุนตราสารหนี้ในประเทศจะเป็นการดีที่สุด
ท้ายนี้มาดูในด้านของความเสี่ยงกันบ้าง ซึ่งความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในตลาดจะมีผลกระทบโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงราคา เมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ก็จะทำให้ตราสารหนี้ในกองทุนปรับตัวลดลง หมายถึงค่า NAV ปรับลดลงไปนั่นเอง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นได้ทุกวันตามภาวะการซื้อขายในตลาด และจะมีความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอีกหนึ่งทางที่เราต้องคิดให้รอบคอบก่อนการลงทุน เพราะนั่นหมายถึงว่าผู้ออกตราสารหนี้อาจะไม่สามารถจ่ายคืนเงินต้น และดอกเบี้ยให้ตามวันเวลาที่กำหนดเอาไว้ได้ด้วยเหตุผลทางด้านการลงทุนต่าง ๆ แต่หากเราเลือกลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลความเสี่ยงในส่วนนี้จะน้อยลงไปมาก (แต่ผลตอบแทนก็ต่างกัน) และถึงอย่างไรก็ตามก็ยังคงมีความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยอยู่นั่นเอง
ผู้ลงทุนที่ต้องการมีสภาพคล่องในการลงทุนสูง ควรเลือกกองทุนเปิด เพราะตลาดจะเปิดให้เราซื้อขายได้ทุกวัน แต่หากลงทุนในกองทุปิด จะไม่คล่องตัวเท่าใดนัก เพราะจะเปิดให้เราซื้อขายเฉพาะบางช่วงเวลาเท่านั้น
กดลิงค์ keyword ด่านล่าง เพื่อ เข้าสู่ backlink รายละเอียดบริการที่คุณมองหา
แหล่งเงินทุน# เงินทุน # เงินกู้# กู้เงิน# เงินกู้นอกระบบ# เงินกู้เจ้าของกิจการ# เงินกู้เจ้าของธุรกิจ# เงินกู้ผู้ประกอบการ#เงินด่วน# เงินหมุน#
เงินกู้รายวัน# เงินกู้รายเดือน# เงินกู้พนักงาน# สินเชื่อเงินสด#
สินเชื่อส่วนบุคคล# ยื่นสินเชื่อ# รูดบัตรเครดิต#เดินบัญชีย้อนหลัง#
ทำสเตทเม้น statementย้อนหลัง# ทำทะเบียนพาณิชย์ย้อนหลัง# เงินโชว์บัญชี#
เงินนอนบัญชี# ขอวีซ่า #แลกเช็ค# จำนำรถ# จำนำมอเตอร์ไซด์# ดาว์นรถแลกเงิน# จำนำรถติดไฟแนนท์# รถแลกเงิน #